เป็นเรื่องเล่าขานจากปู่ย่าตายาย สู่ลูกหลานซึ่งมีอยู่ว่า ในอดีตกาลตำบลโดด อุดมไปด้วยทรัพยากรป่าไม้มีสัตว์น้อยใหญ่อาศัยชุกชุมอยู่บริเวณผืนป่าแห่งนี้ และมีแอ่งน้ำธรรมชาติซึ่งมีน้ำขังทั้งปีให้ฝูงสัตว์ได้หล่อเลี้ยงชีวิต กลุ่มนายพรานผู้ล่าสัตว์ ได้สะกดรอยเท้ากวางจนพบกวางฝูงใหญ่ กระโจนลงกินน้ำอย่างร่าเริง ต่อมาเรียกหนองน้ำแห่งนั้นว่า “ หนองกวางโตน ” ปัจจุบันมีผู้คนอยู่อาศัยเป็นชุมชนเล็ก ๆ และเรียกชื่อหมู่บ้านตามหนองน้ำนั้นว่า บ้านหนองกวางโตน นายพรานเลือกยิงกวางตัวที่โตที่สุด และลูกธนูปักไม่ถูกจุดที่สำคัญ ทำให้กวางตัวที่ถูกยิงตกใจวิ่งหนีไป กลุ่มนายพรานไล่ตามอย่างกระชั้นชิดกวางตัวนั้น มุ่งหน้าไปถึงบริเวณเนินสูงชันในป่าละเมาะแห่งหนึ่ง (บ้านโดดในปัจจุบัน) กวางได้พยายามข้ามเนินสูงชันและสิ่งกีดขวาง จนเกิดความเหนื่อยล้าและพิษบาดแผลจากลูกธนู ไม่มีแรงพอที่จะกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้ ขาหลังทั้งสองข้างกระทบกับกิ่งไม้หกล้มหัวกระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนคอหักตายคาที่ผู้คนจึงกล่าวขานเนินนี้ว่า “ เนินกวางกระโดด” ต่อมาผู้คนได้เข้ามาอาศัยอยู่และได้เรียกชื่อหมู่บ้านผิดเพี้ยนไปจากเดิมเป็น “บ้านโดด” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งตำบลโดดในปัจจุบัน
ส่วนสภาตำบลโดด ได้ยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลโดดเมื่อ วันที่ 30 มีนาคม 2539 และได้สร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลขึ้นใหม่ ณ บ้านหนองตอ หมู่ที่ 13 จนถึงปัจจุบัน
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2555 องค์การบริหารส่วนตำบลโดดได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลโดด |